บริการทำความสะอาด: ห้องครัวไร้คราบ ปราศจากกลิ่น เพราะห้องครัวคืออีกห้องหนึ่งที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว การดูแลรักษาและหมั่น ทำความสะอาดห้องครัว จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ทุกครั้งหลังจากปรุงเมนูสุดโปรดเพิ่มพลังให้กับร่างกาย ก็อย่าลืมที่ต้อง ทำความสะอาดห้องครัว กันสักหน่อย เพราะไหนจะคราบจากน้ำมัน เครื่องปรุง และกลิ่นเศษอาหารอีก เพื่อสุขอนามัยที่ดีและเพื่อให้ห้องครัวสะอาดพร้อมใช้งาน จะพาไปสำรวจและลงมือทำความสะอาดครัว ให้ไร้คราบและกลิ่นไม่พึงประสงค์กันค่ะ
1.การกำจัดคราบน้ำมันบนผนัง
หลังจากการปรุงอาหารทั้งผัดและทอด สิ่งที่เหลือไว้อยู่บนผนังห้องครัวก็คือคราบน้ำมันที่จะค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ นั่นเพราะเราไม่สามารถขัดผนังได้ทุกครั้งหลังทำอาหาร จึงทำให้การทำความสะอาดแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ต้องออกแรงอยู่พอสมควร ดังนั้นการใช้น้ำยาล้างจานที่ช่วยขจัดคราบมันอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ควรเพิ่มน้ำส้มสายชูและผสมเข้ากับน้ำอุ่น เป็นน้ำยาเช็ดทำความสะอาด โดยขัดให้ทั่วและทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ตามด้วยการเช็ดออกด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำสะอาดอีกครั้ง
2.ขจัดคราบทั่วไปด้วยสเปรย์น้ำส้มสายชู
ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ แต่หลังการใช้ห้องครัวปรุงอาหารทุกครั้งก็ต้องเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสมอ ซึ่งการใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูที่ผสมน้ำเปล่าในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งฉีดพ่นบริเวณทั่วไปในครัวตามด้วยการเช็ดทำความสะอาดก็เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุด ทั้งหลังจากการเตรียมมื้ออาหารธรรมดาหรือการทำความสะอาดบนหลังตู้ เคาท์เตอร์ครัวทั่ว ๆ ไป ก็หยิบมาใช้ได้เลยค่ะ
3.ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด
สำหรับเตาแก๊สที่ต้องคอยรับศึกหนักจากการปรุงอาหารแทบทุกเมนู ก็คงไม่แปลกที่จะมีคราบสกปรกสะสม การทำความสะอาดหลังจากถอดส่วนประกอบออกมา
คือการเช็ดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานให้ทั่ว ส่วนหัวเตานั้นให้นำผ้าไปชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดที่สุดเช็ดทำความสะอาด
4.บอกลาคราบมันด้วยเบกกิ้งโซดา
มากำจัดคราบมันกวนใจในทุก ๆ พื้นที่ด้วยเบกกิ้งโซดาตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่ไร้กลิ่น ไร้สารเคมีตกค้าง สามารถทำได้ตั้งแต่การนำมาผสมน้ำ แล้วทาทิ้งไว้ตามบริเวณที่มีคราบมันก่อนที่จะเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งหรือจะใช้โรยบนอุปกรณ์ครัวรวมทั้งพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันแล้วทิ้งไว้สักชั่วโมง ให้เบกกิ้งโซดาเป็นตัวช่วยดูดน้ำมันออกเพื่อให้ขัดง่ายขึ้นได้ค่ะ
5.วิธีกำจัดกลิ่นคาวในห้องครัว
เศษอาหารที่ถูกทิ้งสะสมไว้หลังจากปรุงอาหารและการล้างจานคือต้นตอของกลิ่นคาวที่เหม็นคลุ้งไปทั่วห้องครัว ขนาดนำไปทิ้งและ ทำความสะอาดห้องครัว แล้วก็ยังหลงเหลืออยู่แต่เราสามารถใช้วิธีการผสมแอลกอฮอล์กับน้ำเปล่าอีกเล็กน้อยลงในขวดสเปรย์ แล้วนำไปฉีดพ่นที่ถังขยะหรือมุมที่มีกลิ่นให้เจือจางลงได้ นอกจากนี้ยังสามารใช้เบกกิ้งโซดาโรยลงในถังขยะทุกเช้าเพื่อให้เป็นตัวช่วยดูดกลิ่นและกำจัดความชื้นได้อีกด้วย
6.ขจัดคราบและกลิ่นอับในตู้เย็น
นอกจากเบกกิ้งโซดาจะช่วยกำจัดกลิ่นในถังขยะแล้วก็ยังทำความสะอาดตู้เย็นได้อีกด้วยค่ะ โดยขั้นแรกให้ถอดส่วนประกอบของตู้เย็นออกมาขัดล้างด้วยน้ำอุ่นที่ผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำยาล้างจาน ส่วนภายในตู้เย็นก็ใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำอุ่นที่ผสมกับเบกกิ้งโซดาแบบเดียวกันขัด ทำความสะอาดให้ทั่วตามด้วยการเช็ดออกอีกครั้งด้วยน้ำเปล่า และเปิดตู้เย็นทิ้งไว้สักพัก รอให้ทุกส่วนแห้งสนิทจึงประกอบเข้าเพื่อใช้งาน
7.การทำความสะอาดหน้าเตา
บริเวณหน้าเตาเป็นอีกมุมเล็ก ๆ ที่ทำความสะอาดไม่ยากเลยค่ะ ถึงแม้จะใช้งานตลอดแต่คราบที่เลอะบริเวณนี้ก็มักจะมาจากอาหารขณะปรุง ซึ่งไม่ใช่คราบหนักสะสมสามารถจัดการเช็ดทำความสะอาดได้ทุกครั้งหลังใช้งาน ด้วยน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ พร้อมกับฟองน้ำนุ่ม ๆ อีกสักอันก็เพียงพอค่ะ
8.การทำความสะอาดอ่างล้างจาน
มุมสำหรับทำความสะอาดอย่างบริเวณอ่างล้างจานก็ต้องการการทำความสะอาดไม่แพ้มุมอื่น ๆ เลยค่ะ นอกจากการทำความสะอาดพื้นผิวในอ่างโดยการใช้น้ำยาล้างจานแบบปกติแล้ว ภายในท่อน้ำทิ้งที่เราทำความสะอาดไม่ถึงก็ต้องจัดการทั้งเรื่องกลิ่นและคราบอุดตันที่สะสมอยู่ ด้วยการต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำส้มสายชูให้เดือดแล้วจัดการเทราดลงไป
9.ขจัดคราบน้ำด่างเป็นรอย
ถึงจะเป็นแค่คราบจากน้ำ ที่ไม่ใช่สิ่งสกปรกสะสมแต่ก็ต้องดูแลให้อยู่ในสภาพดีเสมอนะคะ ทำความสะอาดก๊อกน้ําที่เต็มไปด้วยรอยคราบด่างจากน้ำให้น่าใช้ใสปิ๊งง่าย ๆ ไม่ทำลายพื้นผิวด้วยการเช็ดด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู และล้างทำความสะอาดอีกครั้ง ก็จะได้ก๊อกน้ำออกมาใสเหมือนใหม่แล้วค่ะ
10.การดูแลตู้เก็บของในครัว
การดูแลตู้เก็บถ้วยชามและเครื่องครัวให้สะอาดปราศจากกลิ่นอับก็เป็นอีกเรื่องที่จำเป็นมาก ถึงแม้จะเป็นส่วนที่ไม่ได้เจอกับคราบสกปรกโดยตรง แต่เพราะเป็นส่วนที่ใช้จัดเก็บทั้งเครื่องครัว ภาชนะต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องปรุงจึงต้องดูแลให้สะอาด ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่นและสิ่งสกปรก ด้วยการใช้น้ำยาสูตรฮิตจากน้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และอาจใช้กากใบชาวางไว้ในตู้เพื่อลดกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ